ดูหนังอีกแล้ว..
เป็นหนังที่อาร์ตเกินกว่าจะเรียกหนังโป๊
และโป๊เกือบจะไม่ใช่หนังอาร์ต
เรื่องนี้ชื่อ..เรื่อง “9 Songs”
เรื่องนี้อยากดูตั้งกะสมัยอยู่ มอ นู้น
แต่แล้วก็มิได้มีโอกาศดูซักกะที
หนังเรื่องนี้เป็นหนังอาร์ตอ่ะนะ
เห็นเขาบอกว่าเป็นหนังที่ฮือฮามากในเทศกาลต่างๆทั่วโลก
และรู้สึกว่าจะได้รางวัลด้วย
อีกอย่างผู้กำกับก็เป็นนักทำหนังล่ารางวัลด้วย
ไอ้เราก็อยากรู้นะว่ามันมีอะไรให้คนสนใจนัก
นอกจากคำพูดต่างๆนาๆที่คนในเว็บเขาพูดกัน
อันได้แก่..
“เหมือนดูหนังโป๊ สลับกับคอนเสิร์ตร็อค!”
“ถ้าจะดูหนังเรื่องนี้ หา AV ญี่ปุ่นมาดูดีกว่า!”
“ไม่รู้ในหนังมันจะสื่ออะไร ดูแล้วงง!”
“ไม่มีสาระอะไรเลยนอกจากพระเอกนางเอกขย่มกันทั้งเรื่อง!”
เอาละรู้ข้อมูลของหนังมาพอสมควร
ได้อ่านแค่นี้ก็รู้แล้วว่าหนังน่าสนใจมากมายแค่ไหน
จากนี้ไปจะสปอยด์ล้วนๆจนจบเรื่อง
ก็ได้เวลาดูแล้วละ…
หนังเริ่มฉากบนมุมสูงที่ถ่ายบน ฮ.
ฮ. ที่กำลังบินอยู่เหนือทวีปแอนตาร์คติก(ขั้วโลกใต้)
เห็นเงาเฮลิคอปเตอร์เคลื่อนผ่านดินแดนน้ำแข็ง
แล้วพระเอก(แม็ต)ก็บันระยายถึงนางเอก(ลิซ่า)
ว่าเวลาคิดถึงลิซ่า เขาไม่คิดถึงอย่างอื่นเลย
นอกจาก รส และ..
แล้วเสียงครวญครางก็เริ่มขึ้นตรงนั้นแหละ(ยกที่ 1)
แล้วแม็ตก็เล่าต่อว่ารู้จักกันกับเธอที่คอนเสิร์ต
เพลงแรกของหนังก็บรรเลงเราไม่ใช่ขาร็อกแต่ก็..นะ
ฟังจนจบเพลง..(1st song)
จากนั้นก็มีฉากออดอ้อนของนางเอกพระเอก
ก็ดูเป็นเรื่องธรรมดาของคู่รัก ก่อนที่จะชวนกัน McLove
ที่โต๊ะทำงานริมหน้าต่าง แล้วมีแสงยามเช้าส่องมากระทบร่าง(นี่ยก 2)
หนังตัดไปคอนเสิร์ตอีก(2nd song)
พระเอกเป็นคนอังกฤษทำงานวิจัยที่ขั้วโลกใต้
นางเอกเป็นนักศึกษาอเมริกัน
ขณะหนังฉายพระเอกก็เล่าเรื่องขั้วโลกสลับไปเป็นระยะๆ
ว่าดินแดนแห่งน้ำแข็งนั้นมันกว้างขวาง
พอเราไปอยู่ตรงนั้นมันกลับเหมือนเราอยู่อย่างโดดเดี่ยว
จึงดูเหมือนความกว้างและแคบอยู่ในที่เดียวกัน
เหมือนคู่รักที่อยู่บนเตียง…
จากนั้นก็มีฉากมัดมือ เล้าโลมแล้ว ร่วมรัก(ยก 3)
แล้วก็ไม่มีอะไรจะคุยกัน ก็ตัดไปคอนเสิร์ต(3rd song)
จากนั้นก็ปฏิบัติการจุมพิศมรณะ(oral)
แล้วนางเอกก็สำเร็จพระเอกให้ดูอย่างจะๆ โอ้แม่เจ้า(ยก 4)
แล้วก็ตัดไปคอนเสิร์ตอีก(4th song)
ถึงช่วงนี้ถ้าเราดูอย่างพิจารณาจะเห็นว่า
ความสำพันธ์ก็เหมือนกับคู่รักทุกคู่
เร่าร้อนและน่าดึงดูดใจเมื่อเริ่มแรก
กระทั่งพระเอกเริ่มบรรยายถึงเรื่องภูเขาน้ำแข็ง
ที่เคยเป็นส่วนหนึ่งของทวีปแอนตาร์คติก
ที่หลุดออกจากกัน ลอยออกไปละลายในทะเล
ช่วงนั้นพระเอกนางเอกก็หมางเมินกัน
เพระถึงจุดที่เรียกว่า..ความน่าเบื่อ
และความจำเจในชีวิตคู่(ตามมุมมองของผู้ดูอย่างผม)
แล้วนางเอกก็ปฏิบัติการมาสเตอร์เบรชั่นด้วยของเล่น.. (ยก 5)
พระเอกเราก็หลบจากทำครัว ยืนมองดูเธอครู่หนึ่ง
แล้วก็ตัดไปคอนเสิร์ตอีก(5th song)
จากนั้นก็เหมือนเดิม(ยก 6 + 6th song)
ก่อนความสัมพันธ์จะกระชับกันดีขึ้น เพราะถึงวันเกิดพระเอก
นางเอกซื้อหนังสือเกี่ยวกับแอนตาร์ติกให้เป็นของขวัญ
นางเอกนอนอ่านให้ฟัง จากนั้นก็..(ยก 7 + 7th song)
นางเอกใกล้ถึงกำหนดกลับ ‘เมริกา
พระเอกพาเธอซื้อของขวัญ และเที่ยวลอนดอน
แล้วก็ (ยก 8 + 8th song)
เพลงที่ 8 เป็นเพลงบรรเลงเปียโน
ที่ฟังดูอ่อนหวานละเมียดละไม
เหมือนกำลังจะส่งพระเอกกับนางเอกให้แยกกัน
ตลอดเวลาของหนังแม้จะฉายภาพให้เห็นตรงนั้นตรงนี้อย่างชัดเจน
และฉากร่วมรักก็เหมือนเป็นการใช้มุมกล้องช่วย
แต่ก็ไม่ได้เป็นการระตุ้นอารมณ์คนดู
เพียงแค่แสดง..
ให้เห็นถึงความสัมพันธ์ของตัวละครที่ดำเนินไปเท่านั้น
จนกระทั้งถึง (ยกสุดท้าย)
นี่แหละคือจุดที่ อื้อหือ และหวือหวาสุดๆ
เพราะมีฉากร่วมรักกันให้เห็นอย่างจะแจ้ง
เหมือนเป็นการปิดฉากหนังเรื่องนี้
ก่อนที่ทั้งสองจะร่ำลา
และจบด้วยคอนเสิร์ตเพลงที่ 9
จบครบ 9 songs จนได้
เพลงที่ว่าถึงความรักที่ต้องจำจาก
แล้วหนังก็ตัดกลับมาที่จุดเริ่มต้น
บน ฮ. ของพระเอก
ที่ซึ่งเขากำลังชื่นชมความงามของดินแดนน้ำแข็ง
ผมว่าสรุปความเรื่องนี้เหมือนจะบอกว่า
ไม่มีอะไรในโลกร้อนแรงเท่ารักและเซ็กซ์อีกแล้ว
เห็นได้จากว่านี่เป็นความสัมพันธ์สั้นๆของพระเอก
พระเอกที่ทำงานท่ามกลางความหนาวเย็น
แต่สิ่งที่ทำให้เขานึกถึงแล้วตราตรึงในความทรงจำ
กลับไม่ใช่เรื่องของนางเอก ไม่ใช่คำพูดของเธอ
ไม่ใช่ท่าเต้นของเธอ..
แต่มีเพียงเซ็กซ์เท่านั้น
ที่เขานึกถึงแล้ว คงจะหวนถึงความอุ่นที่เคยได้รับ
เหมือนกองไฟเล็กๆ ให้ความอบอุ่นกลางทวีปอันหนาวเหน็บ
แต่ความสัมพันธ์ของทั้งคู่
กลับเป็นเหมือนภูเขาน้ำแข็งที่ลอยห่างจากกัน
จนกระทั่งละลายหายไปในที่สุด
ปล.ผมว่านี่ไม่ใช่หนังรักแน่ๆ
ใครอยากดูหนังอาร์ตแต่ออกแนวรักผมว่า..
ดูเรื่อง Once จะดีกว่า
มีเพลงประกอบเพราะๆ แต่ก็ลงเอยแบบเศร้าๆ
ส่วนเรื่องนี้อาร์ตไม่อาร์ตขึ้นอยู่กะคนดูมากกว่า
เพราะความรู้สึกที่ส่งออกมาให้คนดูผมว่าอาร์ต
ก็คือมองเซ็กอย่างศิลปะ ว่างั้นเถอะ
เพียงแต่ภาพที่สื่อออกมามันติดเรต X เท่านั้นเอง
เพลงที่แปดเพลงอะไรคะ
ถูกใจถูกใจ
ชักไม่แน่ใจแล้วซิ..
น่าจะชื่อเพลง Nadia ของ Michael Nyman
ลองฟังดูใน YouTube นะครับ
ถูกใจถูกใจ